สารสกัดเชอร์รี่

สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ (Bearberry Extract)        Bearberry หรือต้น แบร์เบอร์รี่ อุดมไปด้วยสาร tannin เป็นสารชนิดหนึ่งอยู่ในกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและปกป้องผิว เพื่อให้ผิวแลดูเรียบเนียน นอกจากนี้ ยังสามารถลดจุดน้ำตาลและลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน (melanin) ได้อีกด้วย ซึ่งมีงานวิจัย ได้รับการรับรองแล้วว่า ใบของต้นแบร์เบอร์รี่ สามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดี ส่งผลให้ช่วยลดริ้วรอยบนได้ดี และมีสารที่โดดเด่นในเรื่องของการช่วยให้ผิวขาว ใส นั่นคือ สาร Alpha Arbutin ซึ่งเป็นสารประกอบจากธรรมชาติ มีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ที่จะทำให้ผิวที่ดูหมองคล้ำ กลับมาสดใส มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น สารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่คืออะไร? ทั่วไปแบร์เบอร์รี่สารสกัดจากใบ (Arctostaphylos uva-ursi L. Sprengel) เป็นไม้พุ่มที่เขียวชอุ่มตลอดปีที่แพร่หลายตั้งอยู่ทั่วอเมริกาเหนือเอเชียและยุโรป ผลไม้เกือบจะไม่มีรสจืด แต่พืชมีความเข้มข้นสูงของสารออกฤทธิ์ กิจกรรมต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่ใน 2,2′-azino-bis-3-ethylbenzothiazoline-6-กรดซัลโฟนิก (ABTS) การทดสอบไอออนบวกอนุมูลอิสระคือ 90.42 mmol Trolox เทียบเท่า / กรัมน้ําหนักแห้ง (DW) ความสามารถในการกวาดล้างของสารสกัดจากเมทานอลของใบแบร์เบอร์รี่สารสกัดจากอนุมูลเมท็อกซี่ที่สร้างขึ้นในปฏิกิริยาเฟนตันถูกวัดผ่านเรโซแนนซ์พาราแมกเนติกอิเล็กตรอน ออกซิเดชันไขมันถูกหน่วงในอิมัลชันน้ํามัน – น้ําโดยการเพิ่ม 1 กรัม / กิโลกรัมสารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่ lyophilised. นอกจากนี้ 1 กรัม / กิโลกรัมของสารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่ lyophilised รวมอยู่ในฟิล์มที่ใช้เจลาตินแสดงกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระสูงเพื่อชะลอการย่อยสลายของไขมันในอาหารกล้ามเนื้อ ผลปัจจุบันบ่งบอกถึงศักยภาพของสารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่สําหรับใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอาหารธรรมชาติ. การประยุกต์ใช้สารสกัดจากใบแบร์เบอร์รี่ ผงสารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ถูกนําไปใช้ในด้านเครื่องสําอาง มันสามารถปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระของ สารสกัดจากแบร์เบอร์รี่ที่ดีที่สุดยับยั้งการก่อตัวของเม็ดสีเมลานินโดยการยับยั้งกิจกรรมไทโรซิเนสของ มันเป็นตัวแทนผิวที่ปลอดภัยมากสําหรับการใช้งานภายนอกซึ่งไม่มีความเป็นพิษ, กระตุ้น, กลิ่นไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงเช่น hydroqinoneของ ส่วนใหญ่ให้คุณสมบัติหลักสามประการ ผลการฟอกสีฟัน, ผลต่อต้านอายุและตัวกรอง UVB / UV อ้างอิง  https://ibioworld.com/Ingredients0000000389  https://th.underfungus.com/dietary-supplement/bearberry-leaves-extract.html

สารสกัดจากดอกดาวเรือง

สารสกัดดาวเรือง (Calendula extract) ดอกดาวเรือง เป็นดอกไม้ที่คุ้นตาคนไทยมาช้านาน เพราะเป็นดอกไม้ปลูกง่าย สีสันก็สวยสดใสสะดุดตา ซึ่งนอกจากจะมีให้เห็นในบ้านเราแล้ว ในต่างประเทศก็รู้จักดอกดาวเรืองด้วยเช่นกันค่ะ โดยภาษาอังกฤษจะเรียกกันว่า Marigold เนื่องจากมีสีเหลืองทอง ส่วนในชื่อวิทยาศาสตร์ก็จะเรียกกันว่า Tagetes erecta L. เป็นดอกไม้ในวงศ์ Asteraceae และนอกจากนี้ ในบ้านเรายังมีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่นด้วย โดยภาษาเหนือ หรือในภาคเหนือจะเรียกว่า ดอกคำปู้จู้ หรือในแถบแม่ฮ่องสอนจะเรียกว่า พอทู เป็นต้น ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณจะเชื่อกันว่า การปลูกไว้ในบ้านจะช่วยนำเงินทองเข้ามาให้ ช่วยหนุนนำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง เนื่องจากมีสีเหลืองทองนั่นเอง นอกจากนี้ ยังเป็นดอกไม้ที่แข็งแกร่ง ปลูกง่าย โตเร็ว และทนทาน จึงมีความหมายอันเป็นมงคลซึ่งหมายถึงความมั่นคง โดยมักสื่อความหมายถึงครอบครัวใหม่ หรือทางด้านความรักด้วย สารสกัดดอกดาวเรือง มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง รักษาผิวแพ้ง่ายและชะลออายุของผิว ทั้งยังช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ กรองแสง ลดการอุดตัน และอุดมไปด้วย Lutein ซึ่งมีคุณสมบัติ Anti-inflamatory ลดการอักเสบ เช่นการอักเสบจากสิว ช่วยลดรอยแดงจากสิว ช่วยสมานแผล Moisturizing เสริมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว โดยเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและแห้ง หรือผิวที่ระคายเคือง Immunodolulatory เสริมให้ผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวไม่แพ้ง่าย เหมาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย เป็นผื่นง่าย Reepithelizing เร่งการก่อต้วของชั้นผิว ช่วยให้ชั้นผิวมีสุขภาพด แข็งแกง และสามารถช่วยการสมานแผล รักษาแผลให้ผิวสามารถสร้างชั้นผิวใหม่มาทดแทนได้รวดเร็ว และที่สำคัญให้ผิวอ่อนเยาว์อยู่เสมอ (anti-aging) ประโยชน์ของดอกดาวเรืองสรรพคุณลือเลื่อง บำรุงสายตาดอกดาวเรืองมีสารแซนโทฟิลล์ (Xanthophyll) ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ (สารต้านอนุมูลอิสระ) ชนิดหนึ่ง โดยมีส่วนประกอบเป็นโมเลกุลที่มีออกซิเจน อันได้แก่ ลูทีนและซีแซนธิน ซึ่งจัดว่าเป็นสารบำรุงสายตาจากพืชมีสี โดยทั้งสองสารนี้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตาได้ ช่วยกรองแสงสีฟ้า และยังเป็นสารออกซิเดชั่น ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่จะทำลายประสิทธิภาพการทำงานของจอประสาทตา บรรเทาโรคผิวหนังดอกดาวเรืองมีสารคาเลนดูลา (Calendula) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาปัญหาผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ แผลเป็น และผิวหนังแห้งแตก โดยการนำมาบรรเทาและดูแลปัญหาผิวหนังเหล่านี้ ควรใช้สารสกัดจากดอกดาวเรืองที่อยู่ในรูปครีมยา น้ำมันหอมระเหย หรือโลชั่นบำรุงผิวพรรณ รักษาสิว เหล่าสาวๆ และหนุ่มทั้งหลาย ที่มีปัญหาสิวจะใช้ดอกดาวเรืองแต้มสิวได้เหมือนกัน แต่ควรใช้ดอกดาวเรืองที่สกัดมาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสารสกัดจากดอกดาวเรืองอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มไตรเทอปีน ฟลาโวนอยด์ และซาโปนิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและไวรัส มีคุณสมบัติในการสมานแผล ช่วยทำความสะอาดเนื้อเยื่อ และป้องกันการติดเชื้อบนผิวหนัง แก้ร้อนใน ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และแก้ปัญหาผิวหนังแตกแห้ง รวมทั้งฤทธิ์ต้านอาการอักเสบที่มีอยู่ในดอกดาวเรือง จึงทำให้เป็นดอกไม้รักษาอาการร้อนในได้ โดยการใช้ก็เพียงแค่นำดอกไปตากแห้งแล้วมาชงเป็นชาดื่ม จะช่วยลดความร้อนในร่างกายและทำให้อาการร้อนในลดลงได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำชาจากดอกดาวเรืองมาบ้วนปากเป็นประจำเพื่อรักษาแผลร้อนในได้อีกด้วย แก้ปวดฟัน ดอกดาวเรืองที่เราคุ้นเคยชนิดนี้มีดีมากกว่าแค่เพียงไว้ใช้ประดับให้สวยงามเท่านั้น เพราะถ้าหากนำดอกแห้ง 7-8 ดอกไปต้มกับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะแล้วจิบทั้งวัน ก็สามารถลดอาการปวดฟันได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด อีกทั้งยังสามารถขับร้อนในร่างกายได้อีกด้วย ช่วยลดน้ำตาลในเลือด สารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส (Alpha-glucosidase) ซึ่งมีหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลในลำไส้ส่วนเล็กเพื่อให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ดีขึ้น ดังนั้น สารสกัดจากดอกดาวเรืองจึงมีฤทธิ์ลดการดูดซึมกลูโคสในร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี โดยเฉพาะในกรณีน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นหลังกินอาหาร ลดไขมันในเลือด สารสกัดดอกดาวเรืองมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไลเปส (Pancreatic lipase) เอนไซม์ช่วยย่อยไขมันจากตับอ่อน ได้เทียบเท่ากับสารสกัดของดอกดาวกระจาย และดอกเฟื่องฟ้า โดยจัดเป็นสารพฤกษเคมีประเภทสารประกอบฟีนอลิก มีฤทธิ์ทำให้เอนไซม์ย่อยไขมันทำงานไม่เป็นปกติ ส่งผลให้การย่อยอาหารที่มีไขมันและการดูดซึมไขมันของร่างกายลดลง จึงช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด และลดโอกาสเกิดโรคอ้วนได้ ขับลม แก้ท้องผูก รักษาริดสีดวงทวารหนัก ดอกดาวเรืองถือว่ามีพิษร้ายต่อโรคริดสีดวงทวารหนัก เพราะมีฤทธิ์ขับลมในกระเพาะอาหาร และมีฤทธิ์รักษาโรคริดสีดวงทวารโดยตรง โดยตำรับจากอินเดียจะใช้น้ำคั้นจากช่อดอกดาวเรืองมาดื่มแก้ริดสีดวงทวาร หรือบางกรณีจะใช้น้ำคั้นจากช่อดอกผสมน้ำอุ่นแล้วนั่งแช่ลดอาการบวมของแผลริดสีดวงทวารหนัก ซึ่งจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว อาการริดสีดวงทวารก็จะบรรเทาลงได้ อ้างอิง  https://lifeinnova.com/th/blogs/Calendula%20extract

อาหารเสริมบำรุงปอด

ในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่เราต้องรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะปอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เพราะฉะนั้นเราจะต้องบำรุงและดูแลรักษาประสิทธิภาพการทำงานของปอด เราได้คัดสรร 8 อาหารเสริมบำรุงปอดมาให้คุณแล้ว ✨ 🌤 อาหารเสริมบำรุงปอดนอกจากบำรุงปอดแล้วยังมีประโยชน์อื่นๆต่อร่างกาย อีกทั้งยังสามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลายตัว Amarin Pharma จัดให้‼️ Ingredients จัดเต็ม 💸 ขายง่าย กำไรดี 1. มะขามป้อม 🔴 มะขามป้อม : วิตามินสูง สารต้านอนุมูลอิสระ ● อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ● ต้านการอักเสบ ● ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด 2. แครอท 🟠 แครอท : เบต้าแคโรทีน สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยป้องกันระบบทางเดินหายใจได้ ● มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูงมาก ช่วงป้องกันอาการหอบหืด ● ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น     3. ขมิ้น 🟡 ขมิ้น : ลดอาการอักเสบ ● มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ ● ฤทธิ์ที่ได้จากขมิ้น มีความเป็นไปได้ในการป้องกันการถูกทำลายของปอดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดในหลอดลม หรือเนื้อปอดได้ 4. แอปเปิ้ล 🟢 แอปเปิ้ล : มีใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ ● แอปเปิ้ลอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สามารถยับยั้งสารอนุมูลอิสระในปอด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. บล็อคโคลี่ 🔵 บล็อคโคลี่ : ขับสารพิษ และสารก่อพิษ ● ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ● ในบล็อคโคลีมีสารซัลเฟอร์ราเฟล(sulforaphane) ช่วยให้ตับและเซลล์เยื่อบุสลายสารพิษได้ดีขึ้นช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ● บรรเทาอาการปอดอักเสบ 6. ขิง 🟣 ขิง : บำรุงระบบทางเดินหายใจ ● ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ ● การรับประทานขิงสามารถลดอาการอักเสบภายในร่างกาย เพราะขิงจะช่วยสกัดฮอร์โมนที่เกี่ยวกับอาการอักเสบได้ ● ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตได้ดี 7. ยีสต์-เบต้า กลูแคน 🟤 ยีสต์-เบต้า กลูแคน : ลดสารก่อภูมิแพ้ เสริมภูมิต้านทาน ● มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ● ต้านการติดเชื้อ จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยลดการเกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน 8. พลูคาว ⚪️ พูลคาว : เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ● ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ● ใช้รักษาโรคติดเชื้อและทางเดินหายใจ ● ช่วยรักษาอาการปอดบวม ปอดอักเสบ

สารพัดปัญหาที่มากับ แสงแดด และ UV

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าแดดประเทศไทยนั้นแรงมาก ไม่ว่าจะหน้าไหนก็ตาม เชื่อว่าหลายคนคงประสบปัญหาแดดแผดผิวเราเกือบตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดสารพัดปัญหาเหล่านี้ ที่มากับ แสงแดด และ 🌞UV ❗จุดด่างดำ ❗กระ ❗ผิวหมองคล้ำ ❗ฝ้า ❗สีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นปัญหาที่ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อผิวเรากันเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าหากไม่มีวิธีการป้องกันที่ดี เพราะฉะนั้น เรามีวิธีการป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลเสียต่อผิว มาฝากกัน ✅หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แสงแดดมีความเข้มข้นของรังสียูวีมากเกินไป คือ 10 โมงเช้า ถึง 3 โมง เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดมีความรุนแรง และมีรังสียูวีมากที่สุด ✅ป้องกันผิวก่อนออกไปข้างนอกด้วยการสวยใส่เสื้อคลุมแขนยาว ปกป้องผิวหนัง หรือกางร่ม ใส่หมวก สวมแว่นกันแดด ✅อีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับที่สำคัญมากๆ คือการทากันแดด ต่อให้ไม่ได้ออกไปไหนก็ต้องทา เพราะแสงที่เราไม่เห็นนี่แหละตัวดี ทำร้ายผิวเราโดยไม่รู้ตัว🔥 ควรเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไร? – หากไม่ได้เผชิญแสงแดดมาก สามารถเลือกทาครีมกันแดดที่มี SPF15 +++ ก็มีความเพียงพอในการปกป้องผิว – แต่ถ้าหากออกแดดบ้าง อยู่ในที่ร่มบ้าง ควรเลือกทาครีมกันแดดที่มี SPF 30-50 PA+++ จึงจะสามารถปกป้องผิวได้ – การทาครีมกันแดดที่ได้ประสิทธิภาพคือ ควรทาในปริมาณที่หนา คือ ปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อ 1 ตารางเซนติเมตรของผิวหนัง หรือถ้าพูดง่ายๆคือ สอง ข้อนิ้วมือ และควรเริ่มทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 นาที ข้อแนะนำ – ไม่ควรใช้ครีมกันแดดสำหรับผเวกายไปทาที่ผิวหน้า เพราะในครีมกันแดดประเภทนร้มีความมันมากกว่า อาจทำให้ผิวหน้าของเราอุดตันจนเกิดสิวได้ เพราะฉะนั้นควรแยกประเภทในการใช้จะดีกว่า ✨

Privacy Policy | Commercial Registration Number 0515559000081