การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอางค์ หรือ ยา ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม

โรงงานผลิตอาหารเสริม, ผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่

การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอางค์ หรือ ยา ตามมาตรฐานอุตาสาหกรรม หากคุณเป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารเสริม วิตามิน ยา สบู่ หรือเครื่องสำอางค์รายใหม่ ๆ ก็คงเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริม โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่ แทนการลงทุนสร้างโรงงานเอง นั้นอาจเป็นเพราะว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าและใช้เม็ดเงินลงทุนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการต้องมาซื้อเครื่องจักรมาผลิตเอง แต่ทว่ากลับกัน ก็มีข้อเสียที่ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะคุณเลือกโรงงานที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ได้มาตรฐานแล้วละก็นั้นอาจทำให้คุณเสียเวลาและเงินทุนได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น ในการเลือกโรงงานรับผลิต คุณจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับความเหมาะสมของโรงงานตั้งแต่เริ่มต้น โดยประเมินกับเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ความสามารถในการผลิต ราคา ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพของการผลิต เพื่อให้การเลือกโรงงานรับผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจ มาตรฐานโรงงานผลิตอาหารเสริม , โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่ มีอะไรบ้าง ? ขั้นตอนการสร้างโรงงานนั้นมีความละเอียดซับซ้อน เพื่อให้มีความปลอดภัยกับผู้บริโภคมากที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่สินค้าสักตัวจะออกมาสู่ตลาด เหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับมาตรฐานโรงงาน เพื่อให้สินค้าเป็นที่ยอมรับและเป็นการการันตีว่ามีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ฉะนั้นหากาผู้ประกอบการที่กำลังมองหา โรงงานผลิตอาหารเสริม , โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์ หรือ โรงงานผลิตสบู่ ควรมองหาโรงงานที่มีมาตรฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับโรงงาน ดังต่อไปนี้ GMP (Good Manufacturing Practice) หลักเกณฑ์ชี้วัดมาตรฐาน โรงงานผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่ GMP เป็นคําที่คุ้นเคยในวงการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา เครื่องสําอาง และรวมถึงทางด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย GMP (Good Manufacturing Practice) หมายถึง หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นเกณฑ์หรือข้อกําหนดขั้นพื้นฐานที่จําเป็น ในการผลิตและควบคุมเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตาม และทําให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นการ ป้องกันและขจัดความเสี่ยงที่อาจจะทําให้อาหารเป็นพิษ เป็นอันตราย หรือเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค หลักเกณฑ์ GMP เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติและพิสูจน์แล้วจากกลุ่มนักวิชาการด้านอาหารทั่วโลก ว่าสามารถทําให้อาหารเกิดความปลอดภัย เป็นที่เชื่อถือยอมรับจากผู้บริโภค โดยอาศัยหลายปัจจัยที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ดังนั้นหากยิ่งสามารถปฏิบัติตามแนวทางที่กําหนดได้ทั้งหมด ก็จะทําให้อาหารมีคุณภาพมาตรฐาน และมีความปลอดภัยมากที่สุด หลักการของ GMP จึงครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร โรงงานรับผลิตอาหารเสริม กระบวนการผลิตที่ดีมีความปลอดภัย และมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกขั้นตอน นับตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบ ระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์สําเร็จรูป การจัดเก็บ การควบคุมคุณภาพ และ การขนส่งจนถึงผู้บริโภค มีระบบบันทึกข้อมูล ตรวจสอบและติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์รวมถึงระบบการจัดการที่ดีในเรื่องสุขอนามัย (Sanitation และ Hygiene) ทั้งนี้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นที่มั่นใจเมื่อถึงมือผู้บริโภค และ GMP ยังเป็นระบบประกันคุณภาพพื้นฐานก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ระบบประกันคุณภาพอื่น ๆ ต่อไป เช่น HACCP (Hazards Analysis and Critical Control Points) และ ISO 9000 อีกด้วย มาตรฐานโรงงานผลิตอาหารเสริม ISO มาตรฐานคุณภาพระดับโลก ISO (International Standards Organization) หรือมาตรฐานไอเอสโอ เป็นมาตรฐานสากล หาก โรงงานผลิตอาหารเสริม ใดมี ISO แสดงว่าโรงงานผลิตอาหารเสริมนั้นมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งตัวเลขต่อท้าย ISO มีความหมายแตกต่างกัน โดยมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตอาหารเสริม , โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่ นั้นคือ คือ ISO 22000 และ ISO 9001 และ ISO/IEC 17025 ISO 22000: Requirements for a Food Safety Management System หรือ ข้อกําหนดของระบบการบริหารงานความปลอดภัยด้านอาหาร เป็นข้อกําหนดเฉพาะสําหรับ ระบบการจัดการความปลอดภัยด้านอาหารในห่วงโซ่อาหาร โดยเพื่อให้เป็นมาตรฐานกลางที ครอบคลุมข้อกําหนดทุกมาตรฐานที่เกียวข้องกับคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ที่มีการบังคับใช้ในทางการค้าสินค้าอาหารอยู่ในปจจุบัน ซึงจะทําให้ธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อาหารมีมาตรฐานเดียวทีสอดคล้องกัน และเป็นมาตรฐานทีตรวจประเมินได้ เป็นทียอมรับในระดับสากล (Auditable standard) รวมทั้งจะช่วยผลักดันให้องค์กรให้ความสําคัญต่อการดําเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับข้อกําหนดของกฎหมาย ISO 9001 : 2008 เป็นระบบการบริหารคุณภาพที่มุ่งควบคุมการผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและปฏิบัติตาม กฎเกณฑ์กฎระเบียบหรือข้อกำหนดคุณภาพ ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้กับทุกองค์การโดยไม่คำนึงถึงประเภทและขนาดของผลิตภัณฑ์ ISO/IEC 17025 หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.17025 เป็นข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถห้องปฏิบัตการในการดำเนินการทดสอบหรือสอบเทียบ ซึ่งจะประกอบด้วยข้อกำหนดด้านการบริหารงานคุณภาพและข้อกำหนดด้านวิชาการ โดยมาตรฐานนี้สามารถที่จะนำมาใช้ได้ กับทุกองค์กรที่มีการดำเนินกิจกรรมการทดสอบหรือสอบเทียบ มาตรฐานอาหารฮาลาล มาตรฐานจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย “เครื่องหมายฮาลาล” คือ เครื่องหมายที่คณะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาลของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดต่าง ๆ ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการทำการประทับ หรือแสดงลงบนสลาก หรือผลิตภัณฑ์ หรือกิจการใด ๆ โดยใช้สัญญลักษณ์ที่เรียกว่า “ฮาลาล” ซึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับภายในกรอบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน หลังกรอบเป็นลายเส้นแนวตั้ง ใต้กรอบภายในเส้นขนานมีคำว่า “สนง.คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย” โดยเครื่องหมายดังกล่าวนี้ จะออกให้กับผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ฮาลาล และหรือเนื้อสัตว์ฮาลาลที่นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น จากมาตรฐานต่าง ๆ ที่โรงงานผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์, โรงงานผลิตสบู่ ควรมีแล้วคงทำให้เหล่าเจ้าของกิจการได้เห็นถึงขั้นตอน ว่าการที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแต่ละตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งสำคัญนอกจากคุณภาพ ความปลอดภัยแล้ว ต้องคำนึงถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะอย่างมุสลิมที่มีความละเอียดอย่างมากในการบริโภคอาหารแต่ละชนิดเข้าไป ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อย ไม่เพียงโรงงานที่คุณเลือกจะได้รับมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความยั่งยืนที่แบรนด์ของคุณจะสามารถยืนหยัดได้อย่างสง่างามเพราะไม่บกพร่องในเรื่องนี้ ที่สำคัญมีความหลากหลายทางด้านกลุ่มลูกค้าอีกด้วย อ้างอิง https://fic.nfi.or.th/foodsafety/upload/qs/pdf/ISO_22000%20-%202.pdf https://www.tisi.go.th/data/lab/pdf/17025_t.pdf https://www.acfs.go.th/halal/general.php

บูสต์ผิวให้สวยใส เปล่งปลั่ง ด้วย 3 วิตามินบำรุงผิว

วิตามิน

บูสต์ผิวให้สวยใส เปล่งปลั่ง ด้วย 3 วิตามินบำรุงผิว การมีบุคลิกภาพที่ดี ต้องอาศัยภาพลักษณ์ที่ดูดีเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจ เพราะผิวพรรณเป็นอวัยวะที่สำคัญในร่างกาย ต้องรู้จักดูแลผิวรักษาเพื่อช่วยให้เกิดความประทับใจกับผู้พบเห็น ผิวพรรณที่สวยเนียน กระจ่างใสและสุขภาพดีนั้น นอกจากจะช่วยให้เป็นที่ประทับใจต่อคนที่ได้พบเห็นแล้ว ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองอีกด้วย วันนี้อมรินณ์ ฟาร์มา เราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ ที่สามารถดูแลผิวเราให้สวยใสและดูสุขภาพดี สวยใส เปล่งออร่าจากภายในสู่ภายนอก ด้วยวิตามินบํารุงผิว อันได้แก่ วิตามินซี (Vitamin C) เพื่อผิวขาวใส ลดจุดด่างดำ วิตามิน ซี (Vitamin C) เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำ โดยที่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้จำเป็นต้องได้รับวิตามินชนิดนี้จากการรับประทาน โดยมากวิตามินซีจะอยู่ในกลุ่มของอาหารประเภทผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ พบมากในส้ม สับปะรด มะขาม สตอร์เบอร์รี่ ฝรั่ง มะนาว มะเขือเทศ แต่สำหรับคนที่ไม่นิยมการรับประทานผักและผลไม้ จึงอาจจะต้องทานวิตามินเสริม ประโยชน์ของวิตามินซีในด้านสุขภาพและการดูผิวพรรณ วิตามินซีมีประโยชน์ต่อสุขภาพและต่อผิวพรรณ ดังนี้ ประโยชน์ของวิตามินในด้านสุขภาพ วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เราไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่ายๆ เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ โดยการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ส่วนในด้านของความสวยความงามวิตามินซีก็มีประโยชน์ ช่วยให้สาวๆ สวย สดใสได้เช่นกัน โดยวิตามินซีจะเป็นตัวกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิวพรรณ ส่วนในด้านของผิวพรรณ วิตามินซีจะช่วย เสริมสร้างคลอลาเจน และต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย จึงเป็นเหตุผลที่ว่าวิตามินซีจะสามารถทำให้ผิวพรรณของเหล่าสาวๆ สวยขึ้น สุขภาพดีดูเรียบเนียน จุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด วิตามินอี (Vitamin E) ตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว วิตามิน อี (Vitamin E) หรือ Tocopherol เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ จำเป็นจะต้องได้รับจากการรับประทานเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมันมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อสู้กับความเจ็บป่วยได้ หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของวิตามิน อี คือ เป็นตัวแอนตีออกซิแดนท์ (Antioxidant) และยังเป็นตัวช่วยระบบกล้ามเนื้อและการทำงานของตับ ถือได้ว่าวิตามินอี มีส่วนช่วยบำรุงตับ ซึ่งตับต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมากมาย วิตามิน อี จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ ในการทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดของตับด้วย ทั้งนี้วิตามินอี ยังมีความสามารถในการ ต้านอนุมูลอิสระก่อให้เกิดความเสียหายในเซลล์และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของริ้วรอยที่ดูแก่ก่อนวัย โดยมีการศึกษาวิจัยพบว่า การได้รับวิตามินอีที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเส้นผม ผิว และเล็บได้ และยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิวช่วยชะลอความแก่ ประโยชน์ของ วิตามิน อี ที่นำมาใช้ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง ? วิตามิน อีมีส่วนในการป้องกันการแตกของเม็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของเม็ดเลือด ป้องกันการอักเสบ บำรุงตับ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ซ่อมแซมผิว มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ตรงนี้เองที่จะช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มีการทำวิตามินอีไปเป็นส่วนผสมทั้งในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคต่าง ๆ ดังนี้ วิตามินอีในรูปแบบยา นอกเหนือจากบทบาทการเป็นวิตามินผู้ปกป้องร่างกายแล้ว วิตามินอียังมีบทบาทในการเป็นยารักษาโรค โดยทางด้านการแพทย์ จะใช้รักษาโรคโลหิตจางในทารกแรกคลอดเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ใช้รักษาโรคขาดสารอาหาร ใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อขาเวลาเดิน และใช้สำหรับต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมากมาย วิตามินอีในรูปแบบเครื่องสำอาง วิตามินอีเป็นวิตามินที่มีการนำมาใช้มากชนิดหนึ่งในเครื่องสำอางสำหรับผิว โดยใช้เป็นสารกันหืน ใช้เป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้ผสมในครีมกันแดด เพื่อช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยลดความเกรียมแดดของผิวหนัง และช่วยสมานผิวหนัง ซึ่งฤทธิ์บางอย่างนี้ อาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม วิตามินอีในรูปแบบอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะมีการใช้วิตามินอีเป็นสารกันหืนในอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิตามินอีเป็นอาหารเสริม โดยจะใช้เพื่อบำรุงร่างกาย ป้องกันการเกิดโรค และลดความรุนแรงของภาวะต่างๆ โดยภาวะบางอย่างยังคงต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติม วิตามิน ดี (Vitamin D) กับประโยชน์ที่ดีต่อทุกคน วิตามินที่เป็นส่วนสำคัญของร่างกาย โดยที่ร่างกายของเราสามารถสร้างวิตามินดีด้วยตัวเองจากการสัมผัสแสงแดด และรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู ปลาซาร์ดีน ไข่ และนม ทำหน้าที่ในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างมวลกระดูก และป้องกันโรคกระดูกบาง (Osteopenia) และกระดูกพรุน (Osteoporosis) และช่วยเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อ หัวใจ ปอด และสมอง นอกจากนี้ วิตามินดียังมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงหน้าที่ในการควบคุมกระบวนการทำงานของลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (Parathyroid Hormone) สารมารถป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูกได้และเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวานได้อีกทางหนึ่ง วิตามินดียังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นอย่างไรอีกบ้าง ? หน้าที่หลัก ๆ ของวิตามินดีคือช่วยควบคุมภาวะสมดุลของแร่ธาตุแคลเซียม ฟอสเฟต แคลเซียม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ครอบคลุมไปตั้งแต่สมอง หัวใจ หลอดเลือด กระดูก เอ็น และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนที่สัมพันธ์กับรอบประจำเดือน ช่วยต้านโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ เนื่องจากการที่วิตามินดีช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินมากขึ้น มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ปรับสมดุลและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยป้องกัน และรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ ช่วยให้อาการนอนหลับดีขึ้น ช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)การมีผิวสวยเนียน กระจ่างใสนั้น ทำได้ไม่ยากและก็ไม่จำเป็นต้องซื้อครีมราคาแพง มาใช้ เพียงแค่มีวินัยในการดูแลผิว รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง มีส่วนประกอบของวิตามินซี วิตามินอี และ วิตามินดี รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีทั้งภายในและภายนอก เพียงเท่านี้ก็มีผิวที่สวยใส จนใคร ๆ ต้องเหลียวมอง วิตามินอีในรูปแบบยานอกเหนือจากบทบาทการเป็นวิตามินผู้ปกป้องร่างกายแล้ว วิตามินอียังมีบทบาทในการเป็นยารักษาโรค โดยทางด้านการแพทย์ จะใช้รักษาโรคโลหิตจางในทารกแรกคลอดเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ใช้รักษาโรคขาดสารอาหาร ใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อขาเวลาเดิน และใช้สำหรับต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมากมาย วิตามินอีในรูปแบบเครื่องสำอาง วิตามินอีเป็นวิตามินที่มีการนำมาใช้มากชนิดหนึ่งในเครื่องสำอางสำหรับผิว โดยใช้เป็นสารกันหืน ใช้เป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้ผสมในครีมกันแดด เพื่อช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยลดความเกรียมแดดของผิวหนัง และช่วยสมานผิวหนัง ซึ่งฤทธิ์บางอย่างนี้ อาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม วิตามินอีในรูปแบบอาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะมีการใช้วิตามินอีเป็นสารกันหืนในอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิตามินอีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยจะใช้เพื่อบำรุงร่างกาย ป้องกันการเกิดโรค และลดความรุนแรงของภาวะต่าง ๆ โดยภาวะบางอย่างยังคงต้องรอผลการศึกษาเพิ่มเติม การมีผิวสวยเนียน กระจ่างใสนั้น ทำได้ไม่ยากและก็ไม่จำเป็นต้องซื้อครีมราคาแพง มาใช้ เพียงแค่มีวินัยในการดูแลผิว รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง มีส่วนประกอบของวิตามินซี วิตามินอี และ วิตามินดี รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีทั้งภายในและภายนอก เพียงเท่านี้ก็มีผิวที่สวยใส จนใคร ๆ ต้องเหลียวมอง อ้างอิง  https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/Food-exercise/วิตามิน-C-มีดีอย่างไร#:~:text=วิตามินซี%20มีดีต่อ,ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง https://pri.moph.go.th/index.php/services/people/healthknowledge/31-workingage/44-vegetables https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/Facts-About-Vitamin-E-รู้จักVitamin-E-หนึ่งใน-Antioxidant-ที่จำเป็น https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=33 https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/บทความ-วิตามิน/คุณมีวิตามินดี-พอหรือยัง-

นโยบายความเป็นส่วนตัว | เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 0515559000081

นโยบายความเป็นส่วนตัว | เลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 0515559000081